ศาลอุทธรณ์ จำคุก ‘ต้อย-สนธิญาณ’ ไม่รอลงอาญา คดีขวางเลือกตั้ง
*****20 ตุลาคม 2564 ศาลอาญา (ถนนรัชดาภิเษก) อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีกบฎ กปปส.(คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557 , อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง
*****นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 59 ปี แกนนำ กปปส. และผู้บริหารท็อปนิวส์ นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 44 ปี อดีต ส.ส.กทม.ร่วมชุมนุม , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 70 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) รวมถึงนายเสรี วงศ์มณฑา อายุ 72 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาดเป็นจำเลยที่ 1- 4
*****ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล
*****ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง , ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76 ,152 รวม 8 ข้อหา โดยพนักงานอัยการยื่นฟ้อง ตั้งแต่ปี 2557
*****ทั้งนี้เป็นกรณีสืบเนื่องมาจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 – 1 พ.ค.57 ซึ่งมีการนาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง
*****โดยในท้ายคำฟ้อง พนักงานอัยการ(โจทก์) ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 5 ปีด้วย ขณะที่จำเลยทั้ง 4 ราย ให้การปฏิเสธทุกข้อหาพร้อมตั้งทนายความสู้คดี ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้ง 4 ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562
*****คดีนี้ศาลชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 โดยพิพากษายกฟ้อง หลังพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์นำสืบมารับฟังได้เพียงว่า จำเลยทั้ง 4 ราย ได้เข้าร่วมชุมนุม กับ กปปส. แต่ไม่ได้เป็นแกนนำในการสั่งการผู้ชุมนุม หรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง โดยการชุมนุมของ กปปส. นั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำวินิจฉัยที่ 59/2556 ว่า การชุมนุมของ กปปส. สืบเนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 อันสืบเนื่องมาจากเหตุที่คัดค้านการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรม และไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
*****ดังนั้น พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ จึงยังไม่พอฟังได้ว่า จำเลยทั้ง 4 ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง
*****โดยจำเลยทั้ง 4 ได้เดินทางไปศาลพร้อมด้วยเเกนนำ กปปส.หลายคนอาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. นายถาวร เสนเนียม นายสกลธี ภัททิยกุล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ไปให้กำลังใจ
*****ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 คือ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 59 ปี ได้กระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เเละ สว. กรณีร่วมกับนายสำราญ รอดเพชร ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าบริเวณโรงเรียนสุโขทัย เขตดุสิต ให้จำคุก 1 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา รวมทั้งมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นเวลา 5 ปี
ส่วนจำเลยที่ 2-4 ไม่มีพยานหลักฐานว่า เป็นแกนนำไปขัดขวางการเลือกตั้งและไม่มีความผิดในข้อหาอื่นด้วย จึงพิพากษาเเก้เฉพาะในส่วนของจำเลยที่ 1 นอกนั้นให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น