คลัง กู้อีก 5 แสนล้าน รวม ประเทศไทย ‘กู้สู้โควิด’ แล้ว 2.4 ล้านล้าน
*****นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการออก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มอีก 500,000 ล้านบาท ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้วว่า จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี 2564 และปี 2565 ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.5% จากตัวเลขฐาน ที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ประมาณการไว้ที่ 1.5-2.5%
*****ทั้งนี้ ปี 2563 เศรษฐกิจไทย ติดลบที่ 8% แต่เมื่อมีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือภาคธุรกิจ เช่น Soft Loan ทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบเพียง 6% ดังนั้นเงินก้อนนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ในขณะนี้
*****นอกจากนี้ วงกู้เงินเพิ่มเติม 500,000 ล้านบาท จะไม่เกินกรอบเพดานพนี้สาธารณะ ที่กำหนดไว้ (60% ต่อ GDP) โดยคาดว่า เมื่อมีการกู้เต็มวงเงินในเดือน ก.ย.2564 ตัวเลขหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะอยู่ที่ 58.56% เท่านั้น
*****ขณะที่เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 โดยมีใจความสำคัญว่า
*****เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่ยุติลง ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกู้เงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศ หรือออกตราสารหนี้ ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย มีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 500,000 ล้านบาท โดยต้องลงนามในสัญญากู้เงิน หรือออกตราสารหนี้ ภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2564 ซึ่งตามแผนของกระทรวงการคลังนั้น เงินกู้จำนวนนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น
*****1.ให้กระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 30,000 ล้านบาท นำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยารักษาโรค วัคซีน ปรับปรุงสถานพยาบาลและการวิจัยพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดระลอกใหม่
*****2.ให้กระทรวงการคลัง วงเงิน 300,000 ล้านบาท นำไปใช้ช่วยเหลือ เยียวยา หรือชดเชยให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และ
*****3.ให้กระทรวงการคลัง นำไปใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 170,000 ล้านบาท เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุน และการบริโภคในประเทศ
*****เมื่อรวมกับ พ.ร.ก.กู้เงินอีก 3 ฉบับที่ได้ดำเนินการไปเมือปี 2563 ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันนี้ จึงเท่ากับปัจจุบันประเทศไทย ‘กู้เงินเพื่อสู้โควิด’ แล้วรวม 2,400,000 ล้านบาท ส่วน พ.ร.ก. 3 ฉบับดังกล่าวได้แก่
*****1.พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 วงเงิน 1,000,000 ล้านบาท
*****2. พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (พ.ร.ก. Soft Loan ช่วยเหลือ SMEs) วงเงิน 500,000 ล้านบาท (ธปท. เป็นผู้เสนอและรับผิดชอบ)
*****3. พระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ.2563 (พ.ร.ก. BSF ดูแลตลาดตราสารหนี้) วงเงิน 4 แสนล้านบาท (ธปท. เป็นผู้เสนอและรับผิดชอบ)